ขาดสังกะสี เสี่ยงโรค

ขาดสังกะสี เสี่ยงโรคถามหา

สังกะสีหรือซิงค์ เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้เราแข็งแรงอยู่เสมอ

สังกะสี สารอาหารที่จำเป็นสำหรับทุกคนในครอบครัว
สังกะสีหรือซิงค์ (Zinc) เป็นแร่ธาตุจำเป็นที่ร่างกายไม่สามารถผลิต หรือเก็บไว้ได้ การกินอาหารหรืออาหารเสริมจึงเป็นส่วนช่วยเพิ่มแร่ธาตุชนิดนี้ สังกะสีเป็นตัวช่วยควบคุมให้กระบวนการต่าง ๆ ในร่างกายดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ และคอยช่วยซ่อมบำรุงระบบเอนไซม์และเซลล์ต่าง ๆ ซึ่งหากร่างกายเสียเหงื่อมากเกินไป จะทำให้สูญเสียสังกะสีไปมากถึง 3 มิลลิกรัม ต่อวัน

โดยทั่วไป คนเราจะได้รับสังกะสีผ่านทางการกินอาหารในแต่ละวัน โดยปริมาณสูงสุดที่ร่างกายได้รับต้องไม่เกิน 40 มิลลิกรัมต่อวัน สำหรับปริมาณที่เหมาะสมของแต่ละเพศและช่วงวัยนะคะ

ทารกอายุไม่เกิน 2 ปี ควรได้รับวันละ 2-3 มิลลิกรัม
เด็กอายุ 6-8 ปี ควรได้รับวันละ 4 มิลลิกรัม
เด็กอายุ 9-12 ปี ควรได้รับวันละ 5 มิลลิกรัม
เด็กอายุ 13-15 ปี หากเป็นเพศชายควรได้รับวันละ 8 มิลลิกรัม และเพศหญิงควรได้รับวันละ 7 มิลลิกรัม
เด็กอายุ 16-18 ปี หากเป็นเพศชายควรได้รับวันละ 9 มิลลิกรัม และเพศหญิงควรได้รับวันละ 7 มิลลิกรัม
ผู้ใหญ่เพศหญิง ควรได้รับวันละ 12 มิลลิกรัม
ผู้ใหญ่เพศชาย ควรได้รับวันละ 15 มิลลิกรัม

มาดูกันว่า สังกะสีมีในอาหารประเภทไหนบ้าง
อาหารทะเล เช่น หอยนางรม หอยแมลงภู่ ปู กุ้งหรือกุ้งมังกร ปลาทะเลน้ำลึกอย่างปลาซาร์ดีนที่สามารถบริโภคในรูปแบบปลากระป๋อง และปลาแซลมอน

จริงๆแล้วในตับ เนื้อสัตว์อย่างเนื้อหมูหรือเนื้อวัว รวมถึงเนื้อสัตว์ปีกอย่างเนื้อไก่หรือไก่งวง

ผักบางชนิดโดยเฉพาะเห็ด ผักคะน้า หน่อไม้ฝรั่ง ผักกาด และมันฝรั่ง ถั่วและเมล็ดพืช เช่น งา ถั่วดำ ถั่วแดง ถั่วลูกไก่ เมล็ดฟักทอง เมล็ดแตงโม เม็ดมะม่วงหิมพานต์  ถั่วลิสง

ธัญพืชหรือผลิตภัณฑ์จากธัญพืช ไม่ว่าจะข้าวสาลี ข้าวโอ๊ต ข้าวกล้อง ซีเรียล หรือขนมปังธัญพืช

ไข่แดงและผลิตภัณฑ์จากนม อย่างโยเกิร์ตและชีสชนิดต่าง ๆ

ประโยชน์ของสังกะสีมีมากมายหลายอย่าง อาทิเช่น
• ช่วยการกระตุ้นการเติบโต การพัฒนาส่วนสูง น้ำหนักและกระดูกในทารก เด็ก และวัยรุ่น
• เสริมสร้างภูมิต้านทานโรคให้กับร่างกาย
• ป้องกันต่อมลูกหมากโต และยับยั้งการเจริญของเซลล์มะเร็งต่อมลูกหมาก
• ป้องกันการสูญเสียการมองเห็นในผู้สูงอายุ
• ช่วยลดระยะเวลาการเจ็บป่วยและบรรเทาอาการของโรคหวัด
ช่วยกระตุ้นการรับรู้รส กลิ่น และความรู้สึกอยากอาหาร ช่วยรักษาโรคคลั่งผอม
ช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น
• ช่วยรักษาและป้องกันการเป็นหมันในผู้ชาย
• ช่วยรักษาสิว
• บำรุงสุขภาพเส้นผม ป้องกันผมร่วง แตกปลาย ผมลีบแห้ง ผมหงอกก่อนวัย
• ลดอาการอักเสบและช่วยรักษาโรครูมาตอยด์อาไทรลิส
ช่วยรักษาปัญหาระดูผิดปกติ
ช่วยกระตุ้นการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิว
ช่วยบรรเทาอาการอักเสบของเนื้อเยื่อผิวหนัง
ป้องกันโรคตาบอดกลางคืนและต้อกระจก
ช่วยปกป้องระบบประสาท
เป็นส่วนสำคัญต่อการสร้างโปรตีนและคอลลาเจน
สังกะสีมีความจำเป็นต่อการสร้าง DNA
ซิงค์เป็นส่วนประกอบของเอนไซม์สำคัญมากมาย รวมทั้งสารต้านอนุมูลอิสระอย่างซูเปอร์ออกไซด์ดิสมิวเทส (SOD)
ช่วยในการทำงานของสมอง ช่วยเพิ่มการตื่นตัวทางจิต
สังกะสีทำงานร่วมกับเอนไซม์แลคเตสและมาเลตดีไฮโดรจีเนส ซึ่งช่วยให้ร่างกายนำไปใช้ในขบวนการสร้างพลังงาน
สังกะสีทำงานร่วมกับเอนไซม์อัลคาไลน์ฟอสฟาเตส ซึ่งช่วยในกระบวนการสร้างกระดูกและฟัน
ช่วยในการรักษาสิว บรรเทาอาการอักเสบของสิว ด้วยการไปรักษาสมดุลของปริมาณไขมันในผิวหนัง ช่วยควบคุมปัญหาการเกิดสิวจากการอุดตันของไขมัน
ธาตุสังกะสีช่วยป้องกันมะเร็งเต้านม มะเร็งหลอดอาหารและหลอดลม
ประโยชน์ของธาตุสังกะสี มีส่วนช่วยลดการสะสมตัวของคอเลสเตอรอล
ช่วยลดระยะเวลาการเจ็บป่วยและบรรเทาอาการของโรคหวัด
ช่วยคงสภาพการรับรู้รส กลิ่น และสายตา
ช่วยในการรักษาผู้ป่วยทางจิตหรือโรคจิตเภท
ช่วยรักษาภาวะการมีบุตรยาก
ช่วยกำจัดจุดขาวบนเล็บมือ
ช่วยควบคุมการหดตัวของกล้ามเนื้อตามร่างกาย
มีความสำคัญต่อความเสถียรของเลือด ช่วยควบคุมสมดุลกรดด่างในร่างกาย
สังกะสีเป็นส่วนหนึ่งของเอนไซม์แอลกอฮอล์ดีไฮโดรจีเนส ซึ่งทำหน้าที่ในการกำจัดแอลกอฮอล์

ภาวะขาดสังกะสี
ส่งผลต่อการรับรสชาติและกลิ่น. อยากอาหารน้อยลง. ท้องเสีย
ผมร่วง. มีการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันต่ำ
อ่อนแอ , ไร้สมรรถภาพ. ดูแก่ชราก่อนวัยอันควร
โรคต่อมลูกหมากโต
อวัยวะสืบพันธุ์ไม่เจริญเต็มที่
โรคผนังหลอดเลือดแดงแข็ง

อาการเป็นพิษที่เกิดจากสังกะสี หากได้รับมากเกินไป
ความอยากอาหารลดลง. ท้องเสีย. ปวดหัว. คลื่นไส้. ปวดท้อง. อาเจียน

นอกจากนี้แร่สังกะสีนี้ยังมีความจำเป็นต่อการทำงานของเอนไซม์กว่า 300 ชนิด ที่ช่วยในเรื่องของกระบวนการเผาผลาญ การย่อยอาหาร การทำงานของระบบประสาท ตลอดไปจนถึง การพัฒนาและการทำงานของเซลล์ภูมิคุ้มกันในร่างกาย ซิงค์จึงจัดได้ว่าเป็นแร่ธาตุที่มีความสำคัญต่อร่างกายมากเป็นอันดับ 2 รองจากธาตุเหล็ก

อาหารทุกอย่างมีทั้งข้อดีและข้อเสีย เราก็ควรหาทานให้หลากหลาย
ไม่ใช่ว่าอันนี้ดีก็กินอยู่อย่างเดียว ไม่ได้นะคะ